5 อันดับหนังที่ชอบ
อันดับ 5

12 Angry Men (1957) 8.9 คะแนน
หนังเรื่องนี้ว่าด้วยเรื่องของการตัดสินคดีของชายหนุ่มคนนึง เขาถูกตัดสินประหารชีวิตด้วยคดีฆ่าพ่อแท้ ๆ ของตน ลูกขุนทั้ง 12 คนลงมติเห็นด้วยกันทุกคน การตัดสินเป็นไปได้ด้วยดี ทุกคนต่างดีใจที่ฆาตกรจะไม่ได้โลดแล่นในสังคมอีก จนกระทั่งลูกขุนหมายเลข 8 คัดค้านขึ้นมา
เขางัดทุกสิ่งอย่างที่จะขัดขวางการประหารชีวิตในครั้งนี้ การโต้เถียงอย่าดุเดือดในศาล ความเกรี้ยวกราดของลูกขุนทั้ง 11 คน และความหวังอันน้อยนิดของลูกขุนหมายเลข 8 ที่ต้องการช่วยหนุ่มคนนั้น หนังได้ป้อนสิ่งเหล่านี้ให้คนดูจนอิ่มท้องกันเลยทีเดียว
หนังหลาย ๆ เรื่องมักจะใช้ CG อลังการเพื่อสร้างฉากที่สวยสดงดงาม หรือการหาโลเคชั่นที่ไหนก็”ด้บนโลกเพื่อให้ผู้ชมได้เสพความอลังการของฉาก แต่ไม่ใช่กับหนังเรื่องนี้ เพราะหนังเรื่องนี้มีเพียงฉากเดียว คือ ห้องพิพากษาคดี ใช่แล้ว ตลอด หนึ่งชั่วโมงครึ่งของหนัง อยู่ในห้องตัดสินคดีทั้งหมด แค่อ่านก็อาจจะคิดว่า หนังบ้าอะไรมีฉากเดียว มันจะไปสนุกได้ยังไง แต่หากได้ลองดู คงอึ้งจนตาเหลือกกันไม่มากก็น้อย
นี่ไม่ใช่แค่หนังเล่าเรื่องทั่ว ๆ ไป มันคือหนังสืบสวนสอบสวน ดราม่า ที่นับได้ว่าถูกใจทั้งนักวิจารณ์และผู้ชมทั่วโลก ด้วยความที่หนังทั้งเรื่องมีแค่ฉากเดียว การจะทำให้หนังสนุกนั้นเป็นไปได้ยากมากถึงมากที่สุด แต่หนังเรื่องนี้กลับทำลายกำแพงนั้นไปได้
อันดับที่ 4

4. The Dark Knight (2008) อัศวินรัตติกาล 9.0 คะแนน
หากพูดถึงฮีโร่ เราอาจจะนึกถึงพลังพิเศษเหนือมนุษย์ เช่น ความเร็วเหนือแสง ล่องหน ตายิงเลเซอร์ พละกำลังระดับทำลายตึกได้ แต่ไม่ใช่กับชายคนนี้ เขาเป็นเพียงชายหนุ่มผู้บอบช้ำ ที่ รวย ก็เท่านั้นเอง
หนังเล่าเรื่องชอง แบทแมน หรือ บรูซ เวย์น ที่ต้องการจะกำจัดแกงค์อาชญากรออกไปจากเมืองให้สิ้นซาก แต่กลับถูกคู่ปรับตลอดกาลอย่าง โจ๊กเกอร์ ปั่นหัวจนไม่เหลือชิ้นดี เขาเชียวชาญศิลปะการต่อสู้หลายแขนง เขามีเครื่องมือทันสมัยที่จับได้แม้กระทั่งไดโนเสาร์ แต่ เขาจะสู้กับคนบ้าได้ยังไงกัน
แบทแมนเป็นหนังที่สร้างจากคอมมิค DC ซึ่งฉบับหนังได้ถูกรีเมคหลายรอบมาก แต่รีเมคที่ดีที่สุดคงหนีไม่พ้นผลงานจากผู้กำกับ คริสโตเฟอร์ โนแลน ผู้ขึ้นชื่อว่าเจ้าพ่อแห่งวงการหนังดาร์ค
แม้ว่าเนื้อเรื่องจะเดิม ๆ เหมือนที่เราเคยเห็นกัน แต่หนังเรื่องนี้ได้นำเสนอแง่มุมที่ไม่มีใครอยากเห็น มุมมืดในเมืองก็ฮทแธม การค้ายา ค้ามนุษย์ ความรุนแรง แกงค์มาเฟีย เขาต้องการจะกำจัดมัน แต่กลับถูกขัดขวางโดยคนบ้าอย่าง โจ๊กเกอร์ เพราะอะไรเขาถึงแพ้มันซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพราะอะไรเขาถึงโดนมันฆ่าทางจิตใจโดยที่มันไม่ต้อลงมือทางร่างกายเลยแม้แต่น้อย ต้องดูเอง
อันดับ 3

The Godfather: Part II (1974) 9.0 คะแนน
หนังเรื่องนี้คือโคตรหนังมาเฟียที่หากคอหนังมาเฟียพลาด แปลว่าคุณไม่ใช่คอหนังมาเฟียอย่างแท้จริง เรื่องย่อก็ไม่มีอะไรมาก การหักหลัง ค้ายา อาวุธ ความรุนแรง ปัญหาภายในแกงค์ของมาเฟีย
แม้ว่าเนื้อเรื่องจะดูซ้ำซาก แต่ด้วยความขาวดำของหนัง และบรรยากาศคลาสสิคที่หนังทำ มันทำห้ผู้ชมดำดิ่งไปสู่ห้วงแห่งกาลเวลา และย้อนไปยังยุคมาเฟียครองเมือง
หนังมีจุดเด่นในเรื่องของความตื่นเต้นที่เราลุ้นว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป การหักเหลี่ยมโหดที่เราไม่คิดว่าจะเกิดขึ้น และเรื่องการเมืองในแกงค์มาเฟียที่ทำให้เราคิดว่า อะไรมันจะปานนั้น
อันดับ 2

The Godfather (1972) 9.1 คะแนน
เหตุการณ์ในภาพยนตร์เริ่มขึ้นในปี 1945 ดอน วีโต คอร์เลโอเน (มาร์ลอน แบรนโด) เจ้าพ่อมาเฟียลือชื่อ ซึ่งมีหน้าที่เสมือนที่พึ่งพิงของผู้คนภายใต้สมญานาม “ก็อดฟาเธอร์” ได้จัดงานแต่งงานของคอนนี่ คอร์เลโอเนลูกสาวที่บ้านของตน และมีทอม เฮเก้น (โรเบิร์ต ดูวัล) ลูกบุญธรรมเป็นที่ปรึกษาและทนายประจำตัว จนกระทั่งจอร์นนี่ ฟอนเทน (อัล มาร์ติโน) ลูกบุญธรรมอีกคนของวีโตซึ่งมีอาชีพเป็นนักร้องในลาสเวกัส มาขอความช่วยเหลือจากวีโตให้เขาได้แสดงภาพยนตร์ซึ่งตัวเอกมีบทบาทใกล้เคียงกับตัวเขา
วีโตรับปากและส่งทอมไปพบแจ๊ค วอลซ์ผู้กำกับภาพยนตร์ที่จอร์นนี่ต้องการแสดงที่ลาสเวกัสในวันรุ่งขึ้นเพื่อให้จอร์นนี่ได้แสดงหนัง แต่กลับถูกปฏิเสธและในวันรุ่งขึ้นวอลซ์ตื่นขึ้นมาพบกับหัวม้าตัวโปรดของเขากองอยู่บนเตียง เปรียบเสมือนการขู่เตือนเอาชีวิตจากตระกูลคอร์เลโอเนและจอร์นนี่ก็ได้แสดงหนังในที่สุด ขอบคุณเรื่องย่อจาก Wikipedia
นี่คือปฐมบทแห่งความวุ่นวายและโกลาหลของไตรภาค เดอะ กอดฟาเธอร์ หนังเรื่องนี้ขึ้นชื่อว่าเป็นหนังมาเฟียที่ดีที่สุดในโลก ด้วยรางวัลออสการ์การันตีถึง 3 รางวัล และคำชมอย่างล้นหลาม
ความคลาสสิค ความเท่ของมาเฟียยุค 70 ลูกผู้ชายต้องได้ลิ้มรสหนังเรื่องนี้ซักครั้งในชีวิต
อันดับ 1

The Shawshank Redemption (1994) 9.2 คะแนน
หนังแหกคุกที่ดีที่สุดตลอดกาล การันตีด้วยรางวัลออสการ์ถึง 7 สาขา และชมคำอวยจากนักวิจารณ์ทั่วโลก ทำให้หนังเรื่องนี้ไม่มีใครมาโค่นล้มลงได้
หนังว่าด้วยเรื่องของ แอนดี้ ดูเฟรนส์ (ทิม ร็อบบินส์) นายธนาคารหนุ่มที่ถูกจับในข้อหาฆาตกรรมภรรยาและชายชู้เพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ แอนดี้มั่นใจว่าเขาไม่ได้เป็นคนกระทำจริง แต่หลักฐานทั้งหมดชี้นำมาที่เขา เขาจึงต้องรับโทษจำคุกตลอดชีวิตในเรือนจำชอว์แชงค์ ในปี ค.ศ. 1947 ขอบคุณเรื่องย่อจาก Wilipedia.com
แอนดี้เป็นคนฉลาดเป็นกรด เขามีมันสมองที่เยี่ยมยอด นั่นทำให้เขามั่นใจมากว่าคุกไม่ใช่ที่ที่เขาควรอยู่
หนังได้สื่อถึงความฉลาดแกมโกงของแอนดี้ เล่ห์เหลี่ยมที่น่าทึ่งของเขา มิตรภาพที่เกิดขึ้นในคุกที่มันจะช่วยให้เขาหนีไปได้ และความหวังลม ๆ แล้ง ๆ ที่เขามี มันทให้ผู้ชมไม่สามารถละก้นจากเก้าอี้ได้เลย
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น